Project thumbnail

กลุ่ม saba noor พื้นที่ปฏิบัติการ วิทยาลัยอาชีวศึกษาปัตตานี

โปรเจกต์

คิดดีไอดอล

ประกาศเมื่อ

13 สิงหาคม 2568

จำนวนการดู

558 ครั้ง

กลุ่ม saba noor

พื้นที่ปฏิบัติการ วิทยาลัยอาชีวศึกษาปัตตานี

ผลงาน แอบพลิเคชั่น

สถานการณ์ปัญหา 

บุหรี่ไฟฟ้าเป็นปัญหาที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในสถานศึกษา โดยเฉพาะในกลุ่มนักเรียนอาชีวศึกษา พบปัญหา การสูบในห้องน้ำ, การซื้อขายในรั้วโรงเรียน, และ การแพร่กระจายผ่านโซเชียลมีเดีย
อย่างไรก็ตาม นักเรียนจำนวนมากไม่กล้าแจ้งเหตุเพราะกลัวการถูกมองไม่ดี หรือกลัวชื่อเสียงถูกเปิดเผย ทำให้ผู้บริหารไม่สามารถรับข้อมูลที่แท้จริงได้อย่างทันท่วงที

ข้อมูลวิชาการระบุว่า

- บุหรี่ไฟฟ้ามีนิโคตินสูง ทำลายสมองส่วนที่ควบคุมสมาธิ ความจำ และการตัดสินใจ โดยเฉพาะวัยรุ่น

- ไอระเหยมีสารโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว นิกเกิล โครเมียม ซึ่งเป็นอันตรายต่อปอด

- งานวิจัยชี้ว่าเยาวชนที่ใช้บุหรี่ไฟฟ้ามีความเสี่ยงสูงที่จะติดนิโคติน และมีโอกาสนำไปสู่การสูบบุหรี่จริง (Gateway Effect)

ด้วยสถานการณ์เหล่านี้ ทำให้สถานศึกษาจำเป็นต้องมี ช่องทางร้องเรียนที่ปลอดภัย เพื่อให้ข้อมูลจริงส่งถึงครู–ผู้บริหารอย่างรวดเร็ว โดยไม่ทำให้ผู้แจ้งรู้สึกเสี่ยงหรือถูกเปิดเผยตัวตน จึงเกิดการพัฒนา แอปพลิเคชันร้องเรียนบุหรี่ไฟฟ้าในสถานศึกษา ขึ้นมา

 

เครื่องมือสื่อ/กิจกรรมที่ใช้แก้ไขปัญหา

1.ฟีเจอร์ให้ความรู้ 

-อธิบายโทษของบุหรี่ไฟฟ้า

-ผลกระทบต่อสมองวัยรุ่น

-วิธีคุยกับเด็ก/ผู้ปกครองเรื่องการเลิกบุหรี่ไฟฟ้า

-วิธีสังเกตสัญญาณการเสพติด

-ช่องทางติดต่อ “สายด่วนเลิกบุหรี่”

2. ฟีเจอร์แจ้งเบาะแส 

-แบบฟอร์มกรอกเหตุการณ์: ประเภท (ขาย/แจก/โฆษณา/ร้านค้า/ขนส่ง)

-วัน – เวลา / รายละเอียดเหตุการณ์

-เลือก “ไม่ระบุตัวตน” หรือ “เปิดเผยตัวตน”

-ระบุตำแหน่ง (Optional)

-แนบหลักฐาน: รูปภาพ / วิดีโอ / ลิงก์ / สกรีนช็อต

-ปุ่มส่งรายงานทันที

3.กล้องถ่ายรูปในแอป

-สามารถถ่ายภาพหลักฐานและอัปโหลดได้ทันที

4.ช่องติดต่อสายด่วน 19

-ลิงก์ติดต่อเพื่อขอคำปรึกษาอย่างปลอดภัย

5.การเผยแพร่ผลงาน

-ประชาสัมพันธ์ผ่าน Facebook / Instagram / TikTok และในสถานศึกษา

 

ผลลัพธ์และการเปลี่ยนแปลง

-นักเรียนมีช่องทางแจ้งเหตุบุหรี่ไฟฟ้าที่ปลอดภัยมากขึ้น

-ครู–ผู้บริหารรับข้อมูลได้เร็วและตรงจุด ทำให้จัดการปัญหาได้ทันสถานการณ์

-ผู้เรียนมีความรู้เกี่ยวกับโทษบุหรี่ไฟฟ้าผ่านหน้า “ให้ความรู้” ของแอป

-ช่วยลดการซื้อขายในโรงเรียน เพราะมีระบบติดตาม–ตรวจสอบที่ง่ายขึ้น

-เกิดบรรยากาศ “ร่วมกันสอดส่อง” อย่างสร้างสรรค์ ไม่ใช่การจับผิด แต่เป็นการปกป้องเพื่อน

-นักเรียนกล้าแจ้งเหตุโดยไม่กลัวถูกเปิดเผยตัวตน

 

ปัจจัยที่ทำให้โครงการสำเร็จ

-ออกแบบให้ใช้งานง่ายและไม่ซับซ้อน ทำให้นักเรียนทุกระดับชั้นใช้งานได้

-มีฟีเจอร์ไม่เปิดเผยตัวตน ทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกปลอดภัย

-ทีมมีทักษะด้านไอทีและการพัฒนาระบบ ทำให้สร้างแอปได้อย่างมีคุณภาพ

-ได้รับการสนับสนุนจากครูและสถานศึกษา ทำให้สามารถทดลองใช้งานจริงในพื้นที่

-ประชาสัมพันธ์ผ่านโซเชียลมีเดียที่วัยรุ่นนิยมใช้ เช่น IG, TikTok, Facebook

-มีการวางแผนและพัฒนาเป็นขั้นตอน (วิเคราะห์ ออกแบบ พัฒนา ทดสอบ ใช้งาน)

-การทำงานเป็นทีม Saba Noor ทำให้เกิดความรับผิดชอบและแบ่งงานได้เหมาะสม

 

บทเรียนและข้อค้นพบที่น่าสนใจ

-นักเรียนต้องการช่องทางแจ้งเหตุที่ ไม่เสี่ยง–ไม่ลำบาก–ไม่ถูกเปิดเผยตัว

-ฟีเจอร์แจ้งเบาะแสที่มีการแนบรูป–วิดีโอช่วยให้การสืบหาความจริงง่ายขึ้น

-แอปปลุกให้เกิด “วัฒนธรรมความปลอดภัย” ในสถานศึกษา ลดความเกรงใจและการปิดบังข้อมูล

-การให้ความรู้ในแอปช่วยแก้ปัญหาของ “ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า”

-การทำงานแบบทีมทำให้สมาชิกมีทักษะเพิ่มขึ้น เช่น การพัฒนาซอฟต์แวร์ การสื่อสาร และการแก้ปัญหา

-พบว่าการพัฒนาแอปที่ตอบโจทย์ความกลัวของนักเรียน (ไม่อยากเปิดเผยตัวตน) ช่วยให้การแจ้งเหตุเพิ่มขึ้น

-สื่อดิจิทัลสามารถช่วยป้องกันปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าได้จริง หากออกแบบให้เหมาะกับบริบทของวัยรุ่น

 

ผลงาน  

ไฟล์นำเสนอผลงาน 

 

รูปภาพ

Image
Image
Image
Image
Image
Image