กลุ่ม saba noor พื้นที่ปฏิบัติการ วิทยาลัยอาชีวศึกษาปัตตานี
กลุ่ม saba noor
พื้นที่ปฏิบัติการ วิทยาลัยอาชีวศึกษาปัตตานี
ผลงาน แอบพลิเคชั่น
สถานการณ์ปัญหา
บุหรี่ไฟฟ้าเป็นปัญหาที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในสถานศึกษา โดยเฉพาะในกลุ่มนักเรียนอาชีวศึกษา พบปัญหา การสูบในห้องน้ำ, การซื้อขายในรั้วโรงเรียน, และ การแพร่กระจายผ่านโซเชียลมีเดีย
อย่างไรก็ตาม นักเรียนจำนวนมากไม่กล้าแจ้งเหตุเพราะกลัวการถูกมองไม่ดี หรือกลัวชื่อเสียงถูกเปิดเผย ทำให้ผู้บริหารไม่สามารถรับข้อมูลที่แท้จริงได้อย่างทันท่วงที
ข้อมูลวิชาการระบุว่า
- บุหรี่ไฟฟ้ามีนิโคตินสูง ทำลายสมองส่วนที่ควบคุมสมาธิ ความจำ และการตัดสินใจ โดยเฉพาะวัยรุ่น
- ไอระเหยมีสารโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว นิกเกิล โครเมียม ซึ่งเป็นอันตรายต่อปอด
- งานวิจัยชี้ว่าเยาวชนที่ใช้บุหรี่ไฟฟ้ามีความเสี่ยงสูงที่จะติดนิโคติน และมีโอกาสนำไปสู่การสูบบุหรี่จริง (Gateway Effect)
ด้วยสถานการณ์เหล่านี้ ทำให้สถานศึกษาจำเป็นต้องมี ช่องทางร้องเรียนที่ปลอดภัย เพื่อให้ข้อมูลจริงส่งถึงครู–ผู้บริหารอย่างรวดเร็ว โดยไม่ทำให้ผู้แจ้งรู้สึกเสี่ยงหรือถูกเปิดเผยตัวตน จึงเกิดการพัฒนา แอปพลิเคชันร้องเรียนบุหรี่ไฟฟ้าในสถานศึกษา ขึ้นมา
เครื่องมือสื่อ/กิจกรรมที่ใช้แก้ไขปัญหา
1.ฟีเจอร์ให้ความรู้
-อธิบายโทษของบุหรี่ไฟฟ้า
-ผลกระทบต่อสมองวัยรุ่น
-วิธีคุยกับเด็ก/ผู้ปกครองเรื่องการเลิกบุหรี่ไฟฟ้า
-วิธีสังเกตสัญญาณการเสพติด
-ช่องทางติดต่อ “สายด่วนเลิกบุหรี่”
2. ฟีเจอร์แจ้งเบาะแส
-แบบฟอร์มกรอกเหตุการณ์: ประเภท (ขาย/แจก/โฆษณา/ร้านค้า/ขนส่ง)
-วัน – เวลา / รายละเอียดเหตุการณ์
-เลือก “ไม่ระบุตัวตน” หรือ “เปิดเผยตัวตน”
-ระบุตำแหน่ง (Optional)
-แนบหลักฐาน: รูปภาพ / วิดีโอ / ลิงก์ / สกรีนช็อต
-ปุ่มส่งรายงานทันที
3.กล้องถ่ายรูปในแอป
-สามารถถ่ายภาพหลักฐานและอัปโหลดได้ทันที
4.ช่องติดต่อสายด่วน 19
-ลิงก์ติดต่อเพื่อขอคำปรึกษาอย่างปลอดภัย
5.การเผยแพร่ผลงาน
-ประชาสัมพันธ์ผ่าน Facebook / Instagram / TikTok และในสถานศึกษา
ผลลัพธ์และการเปลี่ยนแปลง
-นักเรียนมีช่องทางแจ้งเหตุบุหรี่ไฟฟ้าที่ปลอดภัยมากขึ้น
-ครู–ผู้บริหารรับข้อมูลได้เร็วและตรงจุด ทำให้จัดการปัญหาได้ทันสถานการณ์
-ผู้เรียนมีความรู้เกี่ยวกับโทษบุหรี่ไฟฟ้าผ่านหน้า “ให้ความรู้” ของแอป
-ช่วยลดการซื้อขายในโรงเรียน เพราะมีระบบติดตาม–ตรวจสอบที่ง่ายขึ้น
-เกิดบรรยากาศ “ร่วมกันสอดส่อง” อย่างสร้างสรรค์ ไม่ใช่การจับผิด แต่เป็นการปกป้องเพื่อน
-นักเรียนกล้าแจ้งเหตุโดยไม่กลัวถูกเปิดเผยตัวตน
ปัจจัยที่ทำให้โครงการสำเร็จ
-ออกแบบให้ใช้งานง่ายและไม่ซับซ้อน ทำให้นักเรียนทุกระดับชั้นใช้งานได้
-มีฟีเจอร์ไม่เปิดเผยตัวตน ทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกปลอดภัย
-ทีมมีทักษะด้านไอทีและการพัฒนาระบบ ทำให้สร้างแอปได้อย่างมีคุณภาพ
-ได้รับการสนับสนุนจากครูและสถานศึกษา ทำให้สามารถทดลองใช้งานจริงในพื้นที่
-ประชาสัมพันธ์ผ่านโซเชียลมีเดียที่วัยรุ่นนิยมใช้ เช่น IG, TikTok, Facebook
-มีการวางแผนและพัฒนาเป็นขั้นตอน (วิเคราะห์ ออกแบบ พัฒนา ทดสอบ ใช้งาน)
-การทำงานเป็นทีม Saba Noor ทำให้เกิดความรับผิดชอบและแบ่งงานได้เหมาะสม
บทเรียนและข้อค้นพบที่น่าสนใจ
-นักเรียนต้องการช่องทางแจ้งเหตุที่ ไม่เสี่ยง–ไม่ลำบาก–ไม่ถูกเปิดเผยตัว
-ฟีเจอร์แจ้งเบาะแสที่มีการแนบรูป–วิดีโอช่วยให้การสืบหาความจริงง่ายขึ้น
-แอปปลุกให้เกิด “วัฒนธรรมความปลอดภัย” ในสถานศึกษา ลดความเกรงใจและการปิดบังข้อมูล
-การให้ความรู้ในแอปช่วยแก้ปัญหาของ “ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า”
-การทำงานแบบทีมทำให้สมาชิกมีทักษะเพิ่มขึ้น เช่น การพัฒนาซอฟต์แวร์ การสื่อสาร และการแก้ปัญหา
-พบว่าการพัฒนาแอปที่ตอบโจทย์ความกลัวของนักเรียน (ไม่อยากเปิดเผยตัวตน) ช่วยให้การแจ้งเหตุเพิ่มขึ้น
-สื่อดิจิทัลสามารถช่วยป้องกันปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าได้จริง หากออกแบบให้เหมาะกับบริบทของวัยรุ่น
ผลงาน
ไฟล์นำเสนอผลงาน
รูปภาพ