กลุ่ม โนราห์ไม่เอาควัน มทร.ศรีวิชัย พื้นที่ปฏิบัติการ คณะครุศาสตร์ฯ มทร.ศรีวิชัย
กลุ่ม โนราห์ไม่เอาควัน มทร.ศรีวิชัย
พื้นที่ปฏิบัติการ คณะครุศาสตร์ฯ มทร.ศรีวิชัย
ผลงาน การแสดงโนราห์ไม่เอาควัน พระรถเมรีจะตามง้อนางมโนราห์ได้ไหม?
สถานการณ์ปัญหา
จากบริบทโครงการ “โนราห์ไม่เอาควัน” ปัญหาหลักคือ การเพิ่มขึ้นของนักสูบบุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มเยาวชน ซึ่งเป็นแนวโน้มที่พบทั่วประเทศ โดยมีข้อมูลสนับสนุน เช่น
- งานวิจัยหลายแหล่งชี้ว่าเยาวชนมองบุหรี่ไฟฟ้าว่า “ปลอดภัยกว่า” ทั้งที่สารในไอควันมี นิโคติน โลหะหนัก และสารทำให้ระคายเคืองปอด ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจและปอด
- สื่อโซเชียลและคอนเทนต์ความบันเทิงเป็นตัวกระตุ้นสำคัญให้เยาวชนทดลองใช้
- พื้นที่ภาคใต้บางจังหวัดพบค่านิยม “ลองเพราะเพื่อนใช้” หรือ “อยากทำควัน” เพิ่มสูงขึ้น
จึงเกิดแนวคิดนำ โนราห์ ซึ่งเป็นวัฒนธรรมพื้นถิ่นภาคใต้ มาประยุกต์กับการรณรงค์ให้คนรุ่นใหม่สนใจปัญหาควันและบุหรี่ไฟฟ้ามากขึ้น
เครื่องมือสื่อกิจกรรมที่ดำเนินการแก้ไขปัญหา
1. การแสดงโนราห์ไม่เอาควัน + เนื้อหาเชิงสร้างสรรค์ เป็นการใช้วัฒนธรรมโนราห์มานำเสนอเรื่องราวเชิงสัญลักษณ์ เช่น
- พระรถ–เมรี–มโนราห์ แทนคนที่ต้องเลือกเส้นทางสุขภาพ
- ตั้งคำถามว่า “พระรถเมรีจะตามง้อ/ปกป้องมโนราห์จากควันได้ไหม?” เพื่อสื่อถึงการปกป้องคนที่รักจากอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้า กิจกรรมมีการซ้อมและแสดงจริงวันที่ 21–22 ตุลาคม 2568
2. เกมในบูธรณรงค์
- เกมเป่าลมแทนควัน ผู้เล่นเป่าลูกโป่งให้แตกแทนการสูบควัน สื่อถึงเลือกสิ่งดีแทนบุหรี่ไฟฟ้า
- การ์ดเกมท่ารำโนราห์ ผู้เล่นสุ่มท่ารำแล้วทำตาม เป็นการผสมวัฒนธรรมกับสุขภาพ เพื่อสร้างทัศนคติที่ดีเกี่ยวกับการเลิกควันบุหรี่ไฟฟ้า
3. ช่องทางสื่อออนไลน์
- IG : MARN DAENG เพื่อเผยแพร่ผลงานต่อเยาวชนบนแพลตฟอร์มที่เข้าถึงง่าย
โนราห์ ไม่เอาควัน
ผลลัพธ์และการเปลี่ยนแปลง
- ผู้เข้าร่วมบูธมีประสบการณ์ตรงกับกิจกรรมที่ทั้งสนุกและให้ความรู้ ทำให้เกิดความเข้าใจเรื่องโทษของบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น
- เยาวชนจำนวนมากได้ทดลองกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ เช่น การ์ดท่ารำโนราห์ ทำให้เกิดการเรียนรู้แบบ “เล่น–รำ–เข้าใจ”
- การแสดงโนราห์ทำให้ผู้ชมจดจำประเด็น “ไม่เอาควัน” ได้ง่ายขึ้น เพราะใช้ศิลปะพื้นบ้านที่คุ้นเคย
- การสื่อสารออนไลน์ช่วยขยายผลไปสู่คนที่ไม่ได้มาหน้างาน ทำให้เกิดการรับรู้ในวงกว้าง
- บางคนเริ่มตั้งคำถามกับตนเอง เช่น “เรากำลังสร้างควันให้คนรอบตัวหรือเปล่า?” ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการลด ละ เลิกบุหรี่ไฟฟ้า
ปัจจัยที่ทำให้โครงการเกิดความสำเร็จ
- ใช้ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นเป็นฐาน (โนราห์) ทำให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายภาคใต้ได้ดี
- กิจกรรมสนุกและมีส่วนร่วมสูง เช่น เกมเป่าลมและท่ารำ ผู้เข้าร่วมไม่รู้สึกว่าถูกสอน แต่ได้เรียนรู้จากการเล่น
- สื่อออนไลน์ช่วยขยายผล โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนที่ใช้ IG
- ทีมงานมีการเตรียมงานจริงก่อนวันแสดง (มีการซ้อม 21 ต.ค.) ทำให้การโชว์ออกมามีคุณภาพ
โนราห์ ไม่เอาควัน
- คอนเซ็ปต์เรื่องราวเชิงเปรียบเทียบ (พระรถ–มโนราห์–เมรี) ช่วยให้ผู้ชมเข้าใจสารรณรงค์ได้ง่าย
- ผสมผสานระหว่างศิลปะ–สุขภาพ–ความสนุก ทำให้ผู้ชมไม่รู้สึกต่อต้านข้อมูลเชิงสุขภาพ
บทเรียนและข้อค้นพบที่น่าสนใจ
- การใช้วัฒนธรรมท้องถิ่นในการสื่อสารสุขภาพได้ผลจริง เพราะผู้ชมรู้สึกใกล้ตัวและพร้อมเปิดใจ
- เกมและกิจกรรมแบบอินเตอร์แอคทีฟดึงดูดเยาวชนมากกว่าการให้ความรู้แบบเดิม
- เนื้อหาแบบตั้งคำถามให้คิด เช่น “พระรถเมรีจะตามง้อมโนราห์ท่ามกลางควันได้ไหม?” ทำให้ผู้ชมตีความและเชื่อมโยงกับชีวิตตนเอง
- การรณรงค์ต้องมีความสร้างสรรค์ ไม่ใช่ให้ข้อมูลเชิงวิชาการอย่างเดียว เพราะเยาวชนจำเป็นต้องรู้สึกก่อนจะคิด
- ทีมงานต้องมีทักษะผสมผสานศิลปะกับสุขภาพ เป็นบทเรียนสำคัญสำหรับการจัดกิจกรรมในอนาคต
ผลงาน
ไฟล์นำเสนอผลงาน
รูปภาพ