กิจกรรมผลงานนิทานสื่อสร้างสรรค์กลุ่มนวัตกรรมออกแบบสื่อคณะวิทยาการสื่อสาร ม.อ. ปัตตานี
ในวันที่ 10 ตุลาคม 2568 ณ ลานกิจกรรม ชั้น 5 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยกลุ่มคนรุ่นใหม่ คณะวิทยาการสื่อสาร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ได้ดำเนินการจัดแสดงผลงาน Thesis Exhibition นวัตกรรมออกแบบสื่อของคนรุ่นใหม่ เพื่อเปิดพื้นที่ให้กับนักศึกษาได้นำเสนอผลงานสร้างสรรค์เชิงนวัตกรรม ที่เชื่อมโยงระหว่างศาสตร์สื่อสารสร้างสรรค์กับประเด็นสังคมร่วมสมัย โดยเฉพาะในมิติสุขภาวะ การเรียนรู้ และการพัฒนาทักษะชีวิตของเด็กและเยาวชน การลงพื้นที่ติดตามและหนุนเสริมในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ
สนับสนุนกระบวนการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ของกลุ่มคนรุ่นใหม่ ติดตามพัฒนาการของผลงานออกแบบสื่อในเชิงสังคมพร้อมแลกเปลี่ยนข้อเสนอแนะเพื่อยกระดับผลงานไปสู่การใช้จริงในพื้นที่และชุมชน โดยได้รับเกียรติจาก ดร.ศุภราภรณ์ ทวนน้อย และ ผศ.ณัฐพงษ์ หมันหลี ร่วมให้ข้อเสนอแนะ วิเคราะห์ และสะท้อนแนวทางการพัฒนาผลงานของนักศึกษาอย่างใกล้ชิด กลุ่มคนรุ่นใหม่ได้นำเสนอผลงานนิทานสร้างสรรค์จำนวน 5 เรื่อง ซึ่งสะท้อนประเด็นด้านบุหรี่ไฟฟ้า สุขภาวะกายใจ และพฤติกรรมของเยาวชนยุคใหม่ ได้แก่
1. เรื่อง “เจเจกับเงาอ้วน”
ได้แรงบันดาลใจมาจากการตระหนักรู้เรื่องการกินและการดูแลสุขภาพกาย
ผู้แต่ง: นางสาวตอยีบะห์ สาแม
นิทานเล่าเรื่องของ “เจเจ” เด็กชายร่าเริงที่เริ่มรู้สึกไม่มั่นใจในรูปร่างของตัวเอง หลังถูกเพื่อนล้อเรื่อง “อ้วน” เขาได้พบกับ “เงาอ้วน” ตัวแทนของความคิดด้านลบในใจ ที่คอยกระซิบให้เขาเลือกทางลัดเพื่อผอมลงอย่างไม่ถูกวิธี ตลอดการผจญภัย เจเจได้เรียนรู้ว่าการดูแลสุขภาพต้องมาจากการกินอย่างเหมาะสม ออกกำลังกาย และรักตัวเองในแบบที่เป็น เรื่องนี้จึงสื่อถึงการ สร้างทัศนคติเชิงบวกและการตระหนักรู้เรื่องสุขภาพกาย อย่างเข้าใจง่ายและอบอุ่นใจ

2. เรื่อง “ควันผู้หลอกลวง”
ได้แรงบันดาลใจมาจากการรู้เท่าทันกลยุทธ์การตลาดของบุหรี่ไฟฟ้า
ผู้แต่ง: นางสาวนาเดีย และตูกัง
นิทานกล่าวถึง “ควัน” ตัวละครในจินตนาการที่ชอบหลอกล่อเยาวชนให้ลอง “บุหรี่ไฟฟ้า” ด้วยภาพลักษณ์ที่ดูเท่ ทันสมัย และไม่อันตราย แต่แท้จริงแล้ว “ควัน” ซ่อนพิษภัยไว้มากมาย เด็กกลุ่มหนึ่งที่ถูกหลอกเริ่มเห็นผลกระทบของมันและร่วมกันเปิดโปงความจริงให้เพื่อน ๆ ได้รู้เท่าทัน เรื่องนี้ใช้ภาษาสนุก ภาพสีสด และสัญลักษณ์เปรียบเทียบชัดเจน เพื่อสะท้อนการรู้เท่าทันกลยุทธ์การตลาดและอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้า ในสังคมปัจจุบัน

3. เรื่อง แค่อยากให้แม่รัก
ได้แรงบันดาลใจมาจากการสะท้อนประเด็นความสัมพันธ์ในครอบครัวและสุขภาพจิตของเด็ก
ผู้แต่ง: นางสาวบิลกีส แมะ
นิทานเล่าเรื่องของ “นอต” เด็กชายที่ถูกเปรียบเทียบและคาดหวังให้เป็นในแบบที่แม่พอใจทั้งการเรียนและการช่วยงานบ้าน นอตรู้สึกไม่เคยได้รับความรักอย่างที่ต้องการและต้องการให้แม่ชื่นชมบ้าง เรื่องนี้สะท้อนถึง สุขภาพจิตของเด็ก ความเข้าใจในครอบครัว และการสื่อสารทางอารมณ์ อย่างอ่อนโยนและลึกซึ้ง

4. เรื่อง เพื่อนซี้ร้านชำ
ได้แรงบันดาลใจมาจากการเลือกซื้อของกินอย่างมีสติ และผลของการบริโภคเกินพอดี
ผู้แต่ง: นางสาวอิลฮัม เตะหมัดหมะ
นิทานเล่าเรื่องของความสัมพันธ์ของกระรอกและกระต่าย สองเพื่อนซี้ที่ชอบไปซื้อขนมที่ร้านชำประจำหมู่บ้าน วันหนึ่งกระรอกซื้อขนมกรุบกรอบมากเกินไปจนป่วยและต้องไปหาหมอ เหตุการณ์นี้ทำให้ทั้งสองเรียนรู้ถึงผลของการบริโภคอาหารเกินพอดี และเริ่มเลือกกินอย่างมีสติ เรื่องนี้ใช้โทนเรื่องสดใสแต่แฝงแง่คิดเกี่ยวกับ การบริโภคอย่างพอดี การดูแลสุขภาพ และการเติบโตผ่านมิตรภาพ

5. เรื่อง “ภารกิจลับพัฟฟี่”
ได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องการโดดเดี่ยวและการขาดใครสักคนรับฟังที่อาจนำมาสู่ปัญหาสุขภาพจิตต่างๆ
ผู้แต่ง: นางสาววาดีนา เจ๊ะเด็ง
นิทานแนวผจญภัยของ “พัฟฟี่” ตัวละครน่ารักที่ได้รับภารกิจช่วยเหลือช็อกโกบอลมอนสเตอร์ ที่กำลังติดอยู่ในเมืองช็อกโกแลต พัฟฟี่ต้องฝ่าด่านช็อกโกแลตและเอาชนะอุปสรรคระหว่างทางด้วยสติและความกล้า จนสามารถช่วยช็อกโกบอลมอนสเตอร์ออกจากเมืองช็อกโกแลตได้สำเร็จ นิทานเรื่องนี้เน้นการผสมผสานจินตนาการกับสาระสุขภาพจิต การมีเพื่อนที่รับฟังในตอนที่กำลังโดดเดี่ยวหรือต้องการใครสักคนให้พูดคุยด้วยสามารถช่วยให้คนๆนึงกลับมาสดใสได้อีกครั้ง

ผลลัพธ์ที่สำคัญ การลงพื้นที่ครั้งนี้ส่งผลให้เกิดการแลกเปลี่ยนและเห็นการนำเสนอผลงานของกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้รับความสนใจจากผู้เข้าชม และประชาชนทั่วไปไม่ต่ำกว่า 1,000 คนผลงานนิทานทั้ง 5 เรื่อง ได้รับการชื่นชมว่าเป็นนวัตกรรมสื่อสร้างสรรค์เพื่อสุขภาวะ ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเด็กและเยาวชนได้อย่างเหมาะสม เกิดการมีส่วนร่วมของทีมงานที่ลงพื้นที่ร่วมสะท้อนผลการเรียนรู้ ช่วยให้เกิดบรรยากาศของการเรียนรู้แบบเปิดใจ และการต่อยอดสู่การใช้สื่อในภาคสนามจริง มีการแลกเปลี่ยนแนวทางพัฒนาผลงานต่อยอด เช่น การจัดพิมพ์นิทานเชิงสุขภาวะเป็นชุด Kiddee Story for Change และการดัดแปลงเนื้อหาเป็นสื่อดิจิทัล นิทานอ่านออกเสียง สื่ออินโฟกราฟิกออนไลน์ ทั้งนี้ กลุ่มคนรุ่นใหม่ได้แสดงให้เห็นถึงการเติบโตทั้งในด้านความคิดสร้างสรรค์ (Creative Growth) และความเข้าใจเชิงสังคม (Social Sensitivity) ผ่านกระบวนการออกแบบสื่อที่มีความหมายต่อสังคม ทั้งนี้ กิจกรรมการลงพื้นที่ติดตามและหนุนเสริมผลงานของกลุ่มนวัตกรรมการออกแบบสื่อในครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการเชื่อมโยงระหว่างการเรียนรู้ทางวิชาการกับการสร้างคุณค่าทางสังคมผ่านพลังของคนรุ่นใหม่ที่ใช้สื่อเป็นเครื่องมือเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมสุขภาวะของเด็กและเยาวชนนิทานทั้ง 5 เรื่อง ที่สะท้อนศักยภาพของคนรุ่นใหม่ในการสร้างสังคมที่เข้าใจสุขภาพและมีจิตสำนึกต่อส่วนรวมอย่างยั่งยืน
รูปภาพ