Ep3 บุหรี่ไฟฟ้าและโดพามีน ผลกระทบต่อสมอง

โปรเจกต์: คิดดีไอดอล

เผยแพร่เมื่อ: 13 สิงหาคม 2568

 จำนวนการดู:  31 ครั้ง

ประเภทสื่อ: สื่อเสียง (มิวสิค/spot/พอดแคสต์)

ในยุคปัจจุบัน บุหรี่ไฟฟ้าเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมในหมู่วัยรุ่นและคนวัยทำงานจำนวนมาก ด้วยความเชื่อว่ามันปลอดภัยกว่าบุหรี่ธรรมดา หรือใช้เป็นทางเลือกในการเลิกบุหรี่ แต่แท้จริงแล้ว บุหรี่ไฟฟ้ายังคงส่งผลกระทบต่อร่างกาย โดยเฉพาะ สมอง ซึ่งเป็นศูนย์ควบคุมการทำงานทั้งหมดของร่างกายมนุษย์ หนึ่งในระบบสำคัญที่ได้รับผลกระทบจากการใช้บุหรี่ไฟฟ้าก็คือ ระบบโดพามีน ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับความรู้สึกพึงพอใจและการเสพติด

โดพามีน (Dopamine) คือสารสื่อประสาทที่เกี่ยวข้องกับความสุข ความพึงพอใจ และแรงจูงใจ เมื่อเราทำสิ่งที่ทำให้รู้สึกดี เช่น การกินอาหารอร่อย การออกกำลังกาย หรือได้รับคำชม สมองจะหลั่งโดพามีนออกมา ทำให้เรารู้สึกดีและอยากทำสิ่งนั้นซ้ำอีกครั้ง แต่เมื่อมีสารเสพติดเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น นิโคติน ซึ่งพบได้ในบุหรี่ไฟฟ้า ระบบสมองจะหลั่งโดพามีนออกมามากผิดปกติ ทำให้ผู้ใช้รู้สึกดีอย่างรวดเร็วและรุนแรง จนเกิดการเสพติดโดยไม่รู้ตัว

การใช้บุหรี่ไฟฟ้าบ่อยครั้งจะทำให้สมองค่อย ๆ ปรับตัวโดยลดการผลิตโดพามีนตามธรรมชาติลง และกลายเป็นว่าผู้ใช้ต้องพึ่งพานิโคตินเพื่อให้รู้สึกดีเหมือนเดิม ซึ่งนี่คือจุดเริ่มต้นของ “วงจรการเสพติด” ที่ส่งผลระยะยาวต่อสมอง โดยเฉพาะในวัยรุ่น ซึ่งสมองยังอยู่ในช่วงพัฒนา ผลกระทบอาจรุนแรงมากกว่าผู้ใหญ่ เช่น:

ความสามารถในการจดจำลดลง สมาธิสั้น. อารมณ์แปรปรวน   เสี่ยงต่อการเกิดภาวะซึมเศร้า หรือวิตกกังวล

นอกจากนี้ การเสพติดนิโคตินจากบุหรี่ไฟฟ้ายังเปิดประตูให้ผู้ใช้มีแนวโน้มเข้าสู่วงจรของการเสพติดสารอื่น ๆ ได้ง่ายขึ้น เช่น แอลกอฮอล์หรือยาเสพติดชนิดรุนแรง เนื่องจากระบบสมองเกี่ยวกับการควบคุมพฤติกรรมและแรงจูงใจถูกทำลายไปแล้วบางส่วน

การเข้าใจถึงความสัมพันธ์ระหว่างบุหรี่ไฟฟ้าและโดพามีนจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง เพราะแม้ว่าอุปกรณ์จะดูทันสมัย กลิ่นหอม หรือดู “เท่” ในสายตาบางคน แต่ผลกระทบที่มีต่อสมองนั้น ลึกซึ้งและยาวนาน โดยเฉพาะเมื่อเกิดขึ้นกับสมองที่ยังไม่พัฒนาเต็มที่

ดังนั้น เราควรพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนจะทดลองหรือใช้บุหรี่ไฟฟ้า เพราะผลลัพธ์อาจไม่ใช่แค่เรื่องของสุขภาพกายเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับ สุขภาพสมองและอนาคตของตัวเราเอง อีกด้วย